บริษัท สหกิจ มอเตอร์ไบค์ จำกัด
เลขที่ 308 ถนนแจ้งสนิท ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร 35000
social.sahakit@gmail.comข่าวสาร
04/07/2568
โซ่มอเตอร์ไซค์ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบส่งกำลังที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์และล้อหลัง หากใช้งานโดยไม่ระวัง อาจทำให้โซ่เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร ส่งผลทั้งต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัวต่อไปนี้คือ 6 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้โซ่มอเตอร์ไซค์ขาดเร็วเกินจำเป็น: 1. เร่งเครื่องแรงบ่อยการออกตัวแรงและเร่งเครื่องบ่อย ๆ ทำให้โซ่รับแรงดึงสูงเกินไป จนยืดหรือฉีกขาดได้ง่าย2. เบรกฉุกเฉินรุนแรงแรงกระชากจากการเบรกแบบเฉียบพลันทำให้โซ่และสเตอร์รับแรงกระแทกสูง อาจเกิดการเสียรูปหรือหลุดจากราง3. บรรทุกของหนักเกินพิกัดน้ำหนักที่มากเกินไปเพิ่มภาระให้ระบบส่งกำลัง โซ่จึงทำงานหนักและเสื่อมเร็ว4. ขับเร็วตลอดทางการใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง ทำให้โซ่ร้อนและเสื่อมสภาพ หากไม่หล่อลื่นหรือบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม จะขาดได้ง่าย5. ขับบนถนนขรุขระเศษหิน ดิน และโคลนสามารถติดเข้าไปในโซ่ เพิ่มแรงเสียดทาน จนอาจทำให้โซ่ขึ้นสนิมหรือขาด6. ขับขึ้นเขาหรือทางชันบ่อยเมื่อโซ่ต้องรับแรงดึงมากจากการขับขึ้นเขา โซ่จะสึกหรอเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะถ้าใช้เกียร์ต่ำบ่อยครั้ง 💡 รู้ไว้ก่อนสาย! หากเริ่มได้ยินเสียงโซ่ดังผิดปกติ เห็นคราบสนิม หรือรู้สึกว่าการส่งกำลังไม่ลื่นไหล ควรรีบตรวจเช็กหรือเปลี่ยนโซ่ทันที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่📍 ติดตามเคล็ดลับดูแลรถและข่าวสารยานยนต์เพิ่มเติมได้ที่[Facebook: Honda Motorcycle Thailand]#โซ่มอเตอร์ไซค์ #ดูแลรถให้ปลอดภัย #HondaTips
อ่านเพิ่มเติมรู้ไว้ก่อนขับ เติมลมยางยังไงให้เหมาะกับรถคุณ
หลายคนอาจไม่เคยใส่ใจเรื่อง “ลมยางมอเตอร์ไซค์” คิดว่าแค่เติมลมพอให้ขี่ได้ก็พอแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ลมยางที่ไม่เหมาะสมสามารถส่งผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพการขับขี่ และแม้กระทั่งอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลมยางไม่เป๊ะ เสี่ยงมากกว่าที่คิดประสบการณ์จากผู้ขี่มอเตอร์ไซค์หลายรายเผยว่า ยางที่นุ่มหรือแข็งเกินไปอาจทำให้รถเสียการทรงตัว โดยเฉพาะบนถนนที่เปียกหรือลาดชัน ยางที่อ่อนเกินไปจะทำให้ยึดเกาะถนนน้อยลง เสี่ยงต่อการลื่นไถล ขณะเดียวกัน ยางที่แข็งเกินไปจะกระเด้ง ทำให้ขับขี่ไม่สบายและอาจแตกง่ายขึ้นเมื่อเจอแรงกระแทก เติมลมเท่าไหร่ถึงจะพอดี?ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป:ยางหน้า ควรอยู่ที่ประมาณ 28-32 PSIยางหลัง ควรอยู่ที่ประมาณ 32-36 PSIอย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบจาก คู่มือประจำรถ เพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสมที่สุดกับรุ่นและการใช้งานของคุณ วิธีเช็กลมยางอย่างถูกต้องตรวจลมยางสัปดาห์ละ 1 ครั้ง – เพราะแรงดันลมอาจลดลงเองตามธรรมชาติใช้เครื่องวัดลมที่แม่นยำ – หลีกเลี่ยงการพึ่งเครื่องที่ปั๊ม ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้เติมขณะยางเย็น – เพื่อความแม่นยำ เนื่องจากแรงดันจะเพิ่มขึ้นเมื่อยางร้อน เติมลมถูกจุด ช่วยเซฟทั้งรถและชีวิตลมยางที่ถูกต้องจะช่วยให้เบรกและเลี้ยวได้มั่นคง ประหยัดน้ำมัน และลดการสึกหรอของยาง ช่วยยืดอายุการใช้งานออกไปอีกนาน🚨 อย่าลืม! ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เช็กแรงดันลมยางให้เป๊ะ เพื่อความปลอดภัยและการขับขี่ที่มั่นใจในทุกเส้นทาง📌 ที่มา: สัมภาษณ์ผู้ใช้งานจริง / ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก📅 เผยแพร่วันที่: 2 กรกฎาคม 2568#มอเตอร์ไซค์ #ลมยางเป๊ะเซฟชีวิต #ปลอดภัยไว้ก่อน #ขับขี่ปลอดภัย #MotorbikeTips
Honda ทุบสถิติขายมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกทะลุ 20.57 ล้านคัน พร้อมเร่งเครื่องสู่ผู้นำตลาด EV
ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor Co., Ltd.) เผยความสำเร็จครั้งใหญ่ในปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2025) ด้วยยอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วโลกสูงถึง 20.57 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของตลาดมอเตอร์ไซค์โลก และทำลายสถิติยอดขายสูงสุดใน 37 ประเทศและภูมิภาค ตลาดเกิดใหม่หนุนยอดขาย – อินเดียยังครองแชมป์นาย โทชิฮิโระ มิเบะ ประธานกรรมการบริหารของฮอนด้า ระบุว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมมอเตอร์ไซค์โลกจะขยายตัวจาก 50 ล้านคัน เป็น 60 ล้านคัน ภายในปี 2030 เร่งเครื่อง EV – เปิดเกมรุกด้วยโมเดลไฟฟ้าทั่วเอเชียเพื่อรองรับการเติบโตระยะยาว ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนาและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยล่าสุดเปิดตัวรุ่น Active e: และ QC1 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมส่งโมเดลระดับโลกอย่าง CUV e: และ ICON e: สู่ตลาดอินโดนีเซีย และเตรียมขยายต่อไปยังเวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์นอกจากนี้ ฮอนด้ายังวางแผนวางจำหน่ายรุ่น CUV e: ในยุโรปและญี่ปุ่นภายในปีนี้ พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในอินเดีย ซึ่งจะเริ่มผลิตจริงในปี 2028 เป้าหมายระยะยาว – ครองตลาดโลก 50% ภายในปี 2031ฮอนด้าวางเป้าสร้างรากฐานธุรกิจระยะยาว ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกให้ได้ 50% และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ROS) มากกว่า 15% ภายในปีงบประมาณ 2574 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2031)บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์สันดาป (ICE) และกลุ่ม EV ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การจัดหาวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ และระบบซัพพลายเชนที่ครอบคลุมที่มา: Honda Motor Co., Ltd. | รายงานประจำปี 2567
🚫อย่าหาทำ! ล้างมอเตอร์ไซค์ด้วย “น้ำยาล้างจาน” เสี่ยงพังมากกว่าที่คิด
เมื่อไม่นานนี้ Honda ร่วมกับทีม SK11 ออกแคมเปญเตือนภัยผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ หลังพบพฤติกรรมเสี่ยงของเจ้าของรถที่เลือกใช้น้ำยาล้างจานทำความสะอาดรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถโดยไม่รู้ตัว ทำไมถึง “ห้าม” ใช้น้ำยาล้างจาน?น้ำยาล้างจานถูกออกแบบมาเพื่อล้างคราบไขมันบนภาชนะ ไม่เหมาะกับวัสดุที่มีความบอบบางอย่างผิวสีของรถ ชิ้นส่วนยาง พลาสติก หรือโลหะ เพราะมีคุณสมบัติเข้มข้นและค่า pH ที่ไม่สมดุลกับวัสดุเหล่านี้ อาจก่อให้เกิดอาการสีซีด หมองกร้าน หรือกัดกร่อนชิ้นส่วนได้ในระยะยาว“หลายคนคิดว่าล้างรถเองประหยัดกว่า แต่หากเลือกน้ำยาผิด อาจต้องจ่ายค่าซ่อมแพงกว่าค่าล้างที่ศูนย์บริการหลายเท่า” — ช่างเทคนิคจาก Honda กล่าว วิธีล้างรถที่ถูกต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะใช้ผ้าชามัวร์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำแรงสูงใกล้เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าล้างในที่ร่มและปล่อยให้รถแห้งเองหรือใช้ผ้าซับเบาๆ สรุปการดูแลรถจักรยานยนต์ให้คงสภาพใหม่อยู่เสมอไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย หากไม่มั่นใจในการดูแลด้วยตัวเอง แนะนำให้ใช้บริการศูนย์ล้างรถหรือศูนย์บริการที่มีมาตรฐานจะดีกว่า🛑 หยุดใช้ "น้ำยาล้างจาน" แล้วหันมาใส่ใจรถของคุณให้ถูกวิธี📍 แหล่งข่าว: Honda Motor Thailand อย่าลองผิดให้เสี่ยงพังเปลี่ยนจากน้ำยาล้างจานมาเป็นน้ำยาล้างรถที่ออกแบบมาเพื่อรถของคุณโดยเฉพาะ ดีกว่าล้างแล้วเสี่ยงพัง มาเริ่มต้นดูแลรถอย่างถูกวิธีกับ น้ำยาล้างรถ Honda ได้แล้ววันนี้ ที่ศูนย์บริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ📍 สอบถามเพิ่มเติมหรือหาซื้อได้ที่: https://th.shp.ee/g6VRvLT🛒 หรือสั่งผ่าน Shopee / Lazada: ค้นหา “น้ำยาล้างรถ Honda แท้”
Wave110 ตัวบัค แห่งวงการมอเตอร์ไซค์ ซีซีไม่เกียว ใส่เดี่ยวได้หมด!!
“ฮอนด้าเวฟ” ตัวบุกเบิกแห่งวงการสองล้อ บุกป่า ฝ่าดง ไต่เขาอย่างแกร่ง! ในขณะที่หลายคนมอง “Honda Wave” เป็นเพียงรถครอบครัวทั่วไป แต่สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล รถรุ่นนี้คือ “เพื่อนคู่ใจ” ที่พาพวกเขาบุกป่าฝ่าดง ไต่ทางชัน และลุยโคลนไปได้ทุกที่อย่างไม่เกรงกลัวอุปสรรค "ฮอนด้าเวฟ" ไม่ได้แค่ขี่ในเมืองจากภาพที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่เกินขีดจำกัดของรถครอบครัวทั่วไป Honda Wave ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้รองรับเส้นทางลำบาก ไม่ว่าจะเป็นดินแดง โคลนลึก หรือเนินเขาสูง ก็ยังสามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคง ขับเคลื่อนชีวิตชาวบ้านหลายครอบครัวใช้ Honda Wave เป็นยานพาหนะหลักในการเดินทางขนของ ส่งลูกไปโรงเรียน หรือแม้แต่บรรทุกของหนักเพื่อค้าขายในหมู่บ้าน การใช้งานอเนกประสงค์เหล่านี้กลายเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า รถเล็กคันนี้แข็งแกร่งเกินตัว เสียงชื่นชมจากผู้ใช้จริง“ไม่ว่าทางจะเละจะชันแค่ไหน ก็มีแค่เจ้าเวฟนี่แหละที่พาไปได้ทุกวัน” — ชาวบ้านผู้ใช้ Honda Wave กล่าว พร้อมยืนยันว่า "ถ้าไม่มีเวฟ คงลำบากแน่นอน" รถเล็กหัวใจใหญ่ ที่ควรค่าแก่การยกย่องแม้จะไม่มีระบบออฟโรดสุดล้ำเหมือนบิ๊กไบค์ราคาแพง แต่ Honda Wave กลับครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศในฐานะรถที่ “ลุยได้จริง ใช้งานได้ทุกวัน” สมคำล่ำลือว่าเป็น “ตัวบุกแห่งวงการมอเตอร์ไซค์”#ฮอนด้าเวฟ #HondaWave #ตัวบุกของจริง #รถเล็กใจใหญ่ #ชีวิตชนบท #บุกป่าฝ่าดง
ปิดเกมเด็กแว้น! ตำรวจบุกจับแก๊งซิ่งวิภาวดี ยึดรถ 13 คัน เยาวชนโดนส่งสถานพินิจ
รวบยกแก๊ง! วัยรุ่นแว้นรวมตัวแข่งรถกลางดึก ตำรวจบุกสกัดทันควันเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่นัดหมายรวมตัวแข่งรถจักรยานยนต์บนถนนวิภาวดีรังสิต ยึดรถได้ทั้งหมด 13 คัน พร้อมควบคุมตัวผู้กระทำผิดรวม 19 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเยาวชนถึง 16 ราย อายุระหว่าง 14-17 ปี กล้องวงจรปิดจับภาพชัด นัดรวมตัวผ่านโซเชียล ในนาม “แว๊นวิภาวดี”เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เวลาประมาณ 01.56 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถด้วยพฤติกรรมเสี่ยง ใช้ความเร็วสูง และไม่คำนึงถึงความปลอดภัย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและการสืบสวน พบว่ากลุ่มดังกล่าวนัดหมายผ่านช่องทางออนไลน์ ใช้ชื่อกลุ่ม “แว๊นวิภาวดี” โดยเริ่มต้นรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก่อนเริ่มประลองความเร็วบนถนนสาธารณะ แจ้งข้อหา-ดำเนินคดีตามกฎหมายตำรวจแจ้งข้อหาหนัก ฐาน “ร่วมกันพยายามแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” พร้อมส่งตัวเยาวชนเข้าสถานพินิจฯ ส่วนผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ใหญ่ 3 ราย ถูกส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาคดี ขยายผล - ยึดรถนำส่งของกลาง ดำเนินการไม่ละเว้นรถจักรยานยนต์ของกลางที่ถูกยึด ประกอบด้วยหลายรุ่น เช่น Honda Lead, Wave, PCX และ Giorno รวม 13 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด นโยบายปราบปรามชัดเจน – เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งการปราบปรามเด็กแว้น การดูแลการจราจร และการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน📌 ติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมได้ทางเพจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต#ข่าวเด่นวันนี้ #จับเด็กแว้น #จราจรปลอดภัย #ตำรวจไทย #กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
หัวใจไม่พิการ! ชายวัย 45 ใช้สองมือเปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์-ขายต้นไม้ สู้ชีวิตลำพังที่ระยอง
“หน่อ” ชายขาพิการไม่เคยยอมแพ้ชีวิต ใช้สองมือซ่อมมอเตอร์ไซค์-ขายต้นไม้หน้าบ้านเล็กๆ ในอำเภอเมืองระยอง เพื่อเลี้ยงดูตัวเองแบบไม่เป็นภาระใคร เผยแม้ขาทั้งสองจะใช้การไม่ได้ แต่ใจยังสู้เต็มร้อยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเขายายชุม ตำบลแกลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อพบกับนายหน่อ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชายขาพิการที่ไม่เคยยอมแพ้โชคชะตา แม้ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง เขายังขยันขันแข็งเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และขายต้นไม้หน้าบ้าน สร้างรายได้เลี้ยงชีพอย่างสุจริต สองขาไม่พร้อม แต่หัวใจไม่ถอยนายหน่อเล่าว่า เขาพิการมาตั้งแต่เด็ก อายุเพียง 2 ขวบตอนที่พลัดตกจากที่สูง ทำให้เส้นประสาทขาเสียหายจนใช้การไม่ได้ ขาทั้งสองข้างลีบเล็กเท่าแขนเด็ก แต่เขาไม่เคยสิ้นหวัง ทุกวันนี้เขาใช้สองมือคลานไปกับพื้น หยิบจับเครื่องมือซ่อมรถและตัดแต่งต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว"ทุกครั้งที่รู้สึกท้อ จะบอกตัวเองว่าเราต้องสู้ ต้องใช้ชีวิตให้ได้ ไม่มีใครช่วยเราได้เท่าตัวเราเอง" – นายหน่อกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อยู่ลำพัง ไม่รบกวนใครนายหน่ออยู่บ้านคนเดียว รายได้หลักมาจากเงินสนับสนุนผู้พิการ พร้อมกับรายได้เล็กน้อยจากการซ่อมรถและขายต้นไม้ ยายบุญชู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี เล่าอย่างเศร้าว่า หลานชายของเธอน่าสงสารมาก พ่อและพี่ชายก็เสียชีวิตแล้ว ส่วนแม่ก็ป่วยหนัก แต่เขาไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ"เขาไม่เคยไปรบกวนใครเลย แม้พิการก็ยังทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ยายก็ช่วยดูแลเท่าที่ไหว" – ยายบุญชูกล่าว เชิญอุดหนุนและให้กำลังใจหากใครอยู่ใกล้บ้านเขายายชุม จังหวัดระยอง และต้องการซ่อมรถจักรยานยนต์ หรือต้องการซื้อต้นไม้ไปประดับบ้าน สามารถแวะไปอุดหนุนนายหน่อได้ เพื่อเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ชายใจสู้คนนี้มีพลังใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง📍 พิกัด: บ้านเขายายชุม ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง📅 เผยแพร่วันที่: 15 มิถุนายน 2568 #คนพิการใจสู้ #แรงบันดาลใจ #ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ระยอง #ต้นไม้ระยอง #ชีวิตไม่ยอมแพ้ #ข่าวดีระยอง #ฮีโร่ชีวิตจริง
เปิดใจ “ลุงซ้ง” วัย 75 ขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องหมา 7 ตัวเที่ยวทุกวัน 10 ปีไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
หลังมีคลิปไวรัลในโซเชียลเผยภาพ “ลุงซ้ง” หรือ นายบุญส่ง แซ่เอี้ยะ อายุ 75 ปี พาน้องหมา 7 ตัวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปทำธุระในเมืองอย่างเป็นระเบียบ สร้างรอยยิ้มให้ผู้พบเห็นตลอดเส้นทาง จากการสังเกต พบว่าน้องหมาหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ชิสุ พุดเดิ้ลผสมปอม ลาบราดอร์ และพันธุ์ไทย นั่งนิ่งเรียงแถวบนรถโดยไม่มีอาการตกใจหรือดื้อซนแม้แต่น้อย บางตัวทำหน้าทะเล้นแสนรู้จนคนขับรถที่ผ่านไปมาต้องหยิบมือถือมาถ่ายคลิป และเมื่อคุณลุงจอดรถลงไปซื้อของ สุนัขทั้ง 7 ตัวก็ยังคงนั่งรออยู่บนรถอย่างมีวินัย จากหมาตัวเดียว สู่ความรักที่เพิ่มขึ้นเป็น 17 ตัวคุณลุงซ้งเล่าว่า เดิมไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงสุนัข แต่เริ่มจากน้องชายเอามาให้เลี้ยง 1 ตัว จากนั้นก็มีลูกหลานตามมา และมีคนนำมาปล่อยเพิ่ม ลุงรับเลี้ยงไว้เพราะความสงสาร ปัจจุบันมีทั้งหมด 17 ตัว ลุงจึงแบ่งพาออกมาเที่ยววันละ 7 ตัวเพื่อไม่ให้พวกมันน้อยใจ“ตอนเช้าถ้าลุงใส่หมวกกันน็อก พวกเขาจะรู้แล้วว่าต้องขึ้นรถ จะขึ้นไปนั่งรอเองเลย ลุงฝึกเขาจนชิน บอกให้อยู่ก็จะไม่ลง แม้ลุงไปทำธุระนานแค่ไหนก็รออยู่เงียบๆ” “ไม่เคยมีอุบัติเหตุ เพราะลุงฝึกและรักพวกเขาเหมือนครอบครัว”แม้ระยะทางจากบ้านถึงคิวรถจะห่างกัน 5 กิโลเมตร แต่ตลอด 10 ปีที่ลุงซ้งพาสุนัขออกนั่งรถด้วยกัน ไม่เคยเกิดเหตุไม่คาดฝัน ลุงบอกว่า รักและผูกพันกับสุนัขทุกตัวเหมือนคนในครอบครัว และจะไม่ยกให้ใครเพราะกลัวจะไม่ได้รับการดูแลอย่างดีค่าอาหารสุนัขเดือนหนึ่งสูงถึงหมื่นกว่าบาท ลุงใช้รายได้จากการขี่วินดูแลเองทั้งหมด แม้จะไม่มีโซเชียลหรือช่องทางรับบริจาค แต่ก็มีผู้มีน้ำใจแวะเวียนนำอาหารสุนัขมาให้บ้าง ฝากถึงคนรักสัตว์: “เลี้ยงแล้วต้องดูแล อย่าทิ้งเขา”ท้ายสุด ลุงซ้งฝากข้อคิดถึงผู้เลี้ยงสัตว์ทุกคนว่า “เมื่อเรานำเขามาเลี้ยง ก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด เพราะเขามีชีวิต มีจิตใจ เหมือนคนในครอบครัว อย่าทิ้งขว้างเขาเลย”ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือหรือนำอาหารสุนัขมาแบ่งปันสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 095-4812165
แห่เติมแก๊สข้ามแดน! ชาวกัมพูชาทะลักปั๊มฝั่งไทย เหตุน้ำมันแพง-แก๊สไทยถูกกว่า
แห่เติมแก๊สแน่นปั๊ม หลังเปิดด่านไทย-กัมพูชาหลังจากมีการเปิดด่านพรมแดนไทย-กัมพูชาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง บรรยากาศที่ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่พากันขับรถยนต์และจักรยานยนต์ข้ามแดนเพื่อเติมน้ำมันและแก๊สในฝั่งไทยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจพบว่า เช้าวันนี้ (22 มิ.ย. 68) แม้จำนวนรถที่เข้ามาเติมน้ำมันจะบางตาลงจากวันก่อนหน้า แต่กลับพบว่าผู้ใช้รถจากฝั่งกัมพูชาแห่มาเข้าคิวเติมแก๊สแทน จนเกิดปัญหาหัวจ่ายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้เกิดคิวยาวเหยียดและการจราจรติดขัดเล็กน้อยภายในสถานีบริการ ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหลัก คนข้ามแดนเพราะ “ถูกกว่า”พนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่เปิดเผยว่า ชาวกัมพูชานิยมขับรถหรูและรถจักรยานยนต์เข้ามาเติมเชื้อเพลิงในฝั่งไทยมากขึ้นในช่วงวันหยุดศุกร์-อาทิตย์ เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศตนเองสูงกว่าฝั่งไทยพอสมควร โดยเฉพาะแก๊สหุงต้ม (LPG) ซึ่งในไทยยังมีราคาที่ชาวบ้านจับต้องได้“บางคนมาแบบเร่งรีบ พอเราติดลูกค้าคันก่อน เขาก็บีบแตรใส่ บางทีก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่เรา” พนักงานกล่าว พร้อมย้ำว่า ปริมาณรถจักรยานยนต์จากกัมพูชามีจำนวนมากเป็นพิเศษ แนวโน้มต้องจับตา หลังความต้องการเชื้อเพลิงสูงขึ้นแม้ปรากฏการณ์นี้จะส่งผลดีต่อยอดขายของสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ชายแดน แต่ก็อาจสะท้อนถึงความจำเป็นที่หน่วยงานรัฐต้องเข้ามากำกับดูแลให้เกิดความสมดุลในด้านทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแย่งชิงเชื้อเพลิงระหว่างประชาชนสองฝั่งชายแดนหมายเหตุ: ติดตามสถานการณ์ชายแดนเพิ่มเติมได้ที่เพจ “ข่าวชายแดนสระแก้ว” หรือเว็บไซต์ของกรมศุลกากรสำหรับข้อมูลการผ่านแดนล่าสุด
ส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทย 2025 ง่าย สะดวก ปลอดภัย ครอบคลุมทั่วไทย!
ข่าวดีสำหรับผู้ซื้อ-ผู้ขายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ! บริษัท ไปรษณีย์ไทย จับมือพันธมิตรผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ เปิดตัวบริการ “ส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทย ปี 2025” มุ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายรถมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศสามารถจัดส่งรถได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางหรือค่าขนส่งสูง ตอบโจทย์ยุคใหม่ที่การซื้อขายรถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนก็ส่งได้! จุดเด่นของบริการนี้✅ สะดวกสบาย: ไม่ต้องเดินทางไกล เพียงแจ้งความประสงค์ผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้าน✅ ปลอดภัยมั่นใจ: ขนส่งด้วยรถปิดทึบมาตรฐานไปรษณีย์ พร้อมระบบแพ็คมิดชิด✅ ส่งถึงหน้าบ้าน: ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วไทย พร้อมบริการปลายทาง✅ มีประกันสินค้า: เพิ่มความอุ่นใจระหว่างการขนส่ง✅ เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์/โชว์รูม: เพิ่มยอดขายได้ทุกภาค ขยายฐานลูกค้าแบบไร้พรมแดน ขั้นตอนง่ายๆติดต่อจุดให้บริการไปรษณีย์ไทยหรือดีลเลอร์ที่ร่วมรายการระบุข้อมูลผู้รับ ปลายทาง และเลือกแพ็กเกจเสริม (ถ้ามี)รอรถเข้ารับ-จัดส่ง พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปหรือเว็บไซต์ ใครใช้ได้บ้าง?บุคคลทั่วไปที่ต้องการส่งรถให้ญาติ/เพื่อนผู้ขายรถมือหนึ่ง-มือสองออนไลน์ศูนย์จำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องการจัดส่งถึงมือลูกค้าต่างพื้นที่🚛 ส่งจริง ถึงไว มั่นใจด้วยแบรนด์ไทย📌 เริ่มใช้บริการได้แล้ววันนี้ที่ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:🌐 www.thailandpost.co.th📞 Call Center 1545