บริษัท สหกิจ มอเตอร์ไบค์ จำกัด
เลขที่ 308 ถนนแจ้งสนิท ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร 35000
social.sahakit@gmail.comข่าวสาร
17/06/2568
เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ขับฝ่าสัญญาณไฟแดง พุ่งชนหญิงสาวที่กำลังข้ามทางม้าลายอย่างถูกต้อง ส่งผลให้ร่างของผู้เสียหายกระเด็นล้มลงกับพื้น โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน ขณะนี้คลิปถูกเผยแพร่บนโซเชียลและกำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน บนถนนสายหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ ขณะหญิงสาวรายหนึ่งกำลังข้ามถนนตามสัญญาณไฟจราจร จู่ ๆ รถจักรยานยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วกลับไม่หยุดตามสัญญาณไฟแดง พุ่งชนเข้ากลางลำตัวของผู้เสียหายอย่างแรง ทำให้เธอล้มกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำและถลอกหลายแห่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบรุดเข้าช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ ก่อนนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรับการรักษา ขณะเดียวกัน ตำรวจควบคุมตัวผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เสียงสะท้อนจากสังคม : “ทางม้าลายควรปลอดภัยกว่านี้”หลังคลิปวิดีโอเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ "คุยข่าวเช้าช่อง 8" เมื่อเช้าวันที่ 12 มิถุนายน ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากต่างแสดงความไม่พอใจ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการควบคุมวินัยจราจร โดยเฉพาะการเพิ่มบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟบริเวณทางม้าลาย ที่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน 📌 ชมคลิปเหตุการณ์เต็มได้ที่:https://www.facebook.com/share/v/18u4H8Uk4r/
อ่านเพิ่มเติมเปิดข้อดี-ข้อจำกัด "Honda ADV-160" รถใหม่สายตรวจ ตอบโจทย์ภารกิจเมืองแคบ แต่ยังไม่เหมาะไล่ล่า
การจัดซื้อรถจักรยานยนต์ Honda ADV-160 เพื่อใช้งานในภารกิจของตำรวจสายตรวจ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำลังเป็นที่จับตาในแวดวงความมั่นคงและสังคมออนไลน์ หลัง นายวศิน สิริเกียรติกุล ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ โพสต์เฟซบุ๊กเปิดมุมมองต่อความเหมาะสมของรถรุ่นนี้ในบริบทการทำงานจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไมต้อง ADV-160?Honda ADV-160 เป็นรถจักรยานยนต์ประเภท Adventure Scooter ที่ผสมผสานความคล่องตัวของสกู๊ตเตอร์เข้ากับสมรรถนะที่รองรับถนนหลากหลายประเภท ทั้งถนนเมือง ทางลูกรัง หรือพื้นที่ขรุขระ ทำให้เหมาะสำหรับภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่เมือง ชุมชนแออัด หรือซอยแคบที่เข้าถึงยาก จุดเด่นที่เข้ากับภารกิจสายตรวจคล่องตัวสูง: ตัวรถขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จราจรหนาแน่นหรือพื้นที่แคบช่วงล่างยืดหยุ่น: ระบบกันสะเทือนยาวกว่ารถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป รองรับถนนขรุขระได้ดีเบาะนั่งสบาย: รองรับการใช้งานระยะยาว ลดอาการเมื่อยล้าประหยัดและบำรุงรักษาง่าย: ใช้เครื่องยนต์ eSP+ 160cc ที่ประหยัดน้ำมัน พร้อมศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศพื้นที่เก็บของ: ใต้เบาะมีช่องเก็บอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น วิทยุสื่อสาร หรือชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นดีไซน์ทันสมัย: เสริมภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว ข้อจำกัดที่ควรพิจารณาไม่เหมาะกับภารกิจความเร็วสูง: เครื่องยนต์ขนาด 160cc และระบบ CVT อาจไม่ตอบโจทย์การไล่ล่าหรือภารกิจเร่งด่วนไม่มี ABS ในบางรุ่น: อาจเพิ่มความเสี่ยงหากเบรกกะทันหันความทนทานระยะยาว: โครงสร้างแบบสกู๊ตเตอร์อาจสึกหรอเร็ว หากใช้งานหนักอย่างต่อเนื่องพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์จำกัด: ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ไซเรน หรือกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉินราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป: อาจกระทบการจัดสรรงบประมาณเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในกลุ่มเดียวกัน บทสรุปHonda ADV-160 ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ภารกิจลาดตระเวนในเขตเมืองหรือพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาควบคู่กับลักษณะภารกิจเฉพาะด้าน งบประมาณ และอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานจริง
เตือนภัย! ติดกันสะบัดผิดตำแหน่ง อาจเสี่ยงอุบัติเหตุแทนที่จะช่วยซับแรง
กลายเป็นกระแสในกลุ่มไบค์เกอร์ทันที เมื่อภาพการติดตั้ง “กันสะบัด” ไว้บริเวณท้ายรถมอเตอร์ไซค์ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ พร้อมแคปชั่นว่า “ติดกันสะบัดไว้ท้ายรถ ให้ท้ายดีดน้อยลง” จนเกิดกระแสวิจารณ์หนักจากผู้ใช้โซเชียล โดยเฉพาะจากกลุ่มนักขี่ที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิค โพสต์ดังกล่าวมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ระบุว่าจะทดลองใช้งานจริง โดยกล่าวว่า “เดี๋ยวไปวิ่งน้ำหนาวสักรอบจะมารายงานว่าพอใช้หรือเปล่าครับ” ซึ่งก็ยิ่งกระพือความสนใจและคำถามจากชาวเน็ตจำนวนมากว่า การติดตั้งแบบนี้ปลอดภัยจริงหรือไม่?กันสะบัดคืออะไร และควรติดตรงไหน?“กันสะบัด” หรือ Steering Damper เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนหรือแรงสะบัดของแฮนด์ขณะขับขี่ โดยเฉพาะในความเร็วสูง ซึ่งตำแหน่งที่ถูกต้องควรอยู่บริเวณด้านหน้าหรือใต้แฮนด์ เพื่อทำงานร่วมกับระบบควบคุมพวงมาลัยโดยตรงแต่ในกรณีที่ติดตั้งบริเวณ “ซับเฟรม” หรือ “สวิงอาร์มท้ายรถ” อย่างในภาพนั้น นอกจากจะไม่สามารถช่วยซับแรงสะบัดได้จริงแล้ว ยังอาจสร้างแรงต้านที่ผิดธรรมชาติ จนอาจส่งผลต่อการทรงตัวหรือการควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉินเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญผู้ใช้งานจากกลุ่มมอเตอร์ไซค์ทางเทคนิคต่างพากันคอมเมนต์เตือนถึงความเสี่ยง เช่น“กันสะบัดมีหน้าที่ควบคุมแฮนด์ ไม่ใช่โช้คหลัง การติดตั้งผิดจุดอาจทำให้รถเสียศูนย์ระหว่างขับขี่”“โช้คแบบนี้ไม่ใช่กันดีด การติดที่ท้ายไม่มีผลอะไรกับความนิ่งของแฮนด์เลย”แนะให้ตรวจสอบก่อนติดตั้งอุปกรณ์แต่งหากคุณเป็นผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ที่สนใจเสริมความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์แต่ง ควรศึกษาคู่มือการใช้งานหรือปรึกษาช่างที่มีความรู้ก่อนเสมอ การติดตั้งผิดตำแหน่งอาจไม่ใช่แค่ “ไม่เวิร์ก” แต่ยังเสี่ยงอันตรายได้ในชีวิตจริงติดตามอัปเดตข่าวสารและเทคนิคการขี่ปลอดภัยได้ที่ เพจ SKT มอเตอร์ไบค์#กันสะบัด #ติดตั้งปลอดภัย #ไบค์เกอร์มือใหม่ควรรู้
พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทยโดยตรง แต่ภาคอีสานเสี่ยงฝนหนัก ลมแรง
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 12 (146/2568) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 04.00 น. ระบุว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” ซึ่งกำลังก่อตัวในทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประมาณ 100 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กม./ชม. เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 12 กม./ชม. เส้นทางพายุ: ไม่เข้าไทยแต่กระทบอีสานแม้ “หวู่ติบ” จะไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ขอบพายุที่พัดลมจากทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้เข้าหาศูนย์กลาง ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย โดยเฉพาะจังหวัด หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และศรีสะเกษ อาจมีฝนตกหนักบางแห่งและลมแรงในระยะนี้ แนวโน้มและคำแนะนำประชาชนกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า พายุ “หวู่ติบ” จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำในวันที่ 13 มิ.ย. และขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของจีนในช่วงเช้าวันที่ 14 มิ.ย. นี้ โดยยังคงแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยหรือเดินทางในจังหวัดภาคอีสานตอนบนสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ ควรตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัย ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทางเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ โทร. 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง
พายุดีเปรสชันจ่อทวีเป็นพายุโซนร้อน ฝนถล่มทั่วไทย เตือนรับมือภัยน้ำท่วม-คลื่นลมแรง
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 4 เตือนภัยพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน ในระยะต่อไป โดยพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบโดยอ้อมต่อประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก พร้อมทั้งเกิดคลื่นลมแรงในทะเล พายุเคลื่อนตัวใกล้จีนตอนใต้ – กระทบไทยทางอ้อมเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 11 มิถุนายน พายุมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 450 กิโลเมตร ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. พายุกำลังเคลื่อนตัวช้าไปทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนช่วงวันที่ 13–14 มิถุนายน ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันแม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ไทยโดยตรง แต่จะทำให้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายจังหวัดทั่วทุกภาคมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เตือนภัยน้ำท่วม-น้ำป่า พร้อมแนะเรือเล็กงดออกจากฝั่งพื้นที่เสี่ยงภัยจากฝนตกสะสม ได้แก่ พื้นที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เชียงราย น่าน แพร่ เลย อุดรธานี และนครราชสีมา ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงกว่า 3 เมตร เรือเล็กในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน เพื่อความปลอดภัย สภาพอากาศทั่วไทย (11 มิ.ย. 68)ภาคเหนือ-อีสาน: ฝนตกหนักร้อยละ 70 ของพื้นที่ภาคตะวันออก: ฝนร้อยละ 60 ระวังฝนหนักใน จันทบุรี-ตราดภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ฝนร้อยละ 70 และคลื่นทะเลแรงกรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ติดตามสถานการณ์กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนติดตามประกาศอย่างใกล้ชิดผ่านเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 06.00 น.
EM Motor เปิดตัว "Legend Pro" มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบรนด์คนไทย
EM Motor เปิดตัว "Legend Pro" มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย แรงจัด ประหยัดจริง เปิดราคาพิเศษเพียง 45,740 บาทEM Motor แบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ประกาศเปิดตัว "Legend Pro" รุ่นล่าสุดที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ และราคาที่เข้าถึงได้ โดยเปิดราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเพียง 45,740 บาท สำหรับผู้จอง 400 คันแรก จากราคาปกติ 65,000 บาท จุดเด่นของ Legend Pro: แรง ประหยัด ปลอดภัยLegend Pro มาพร้อมมอเตอร์ฮับขนาด 2,500 วัตต์ ที่สามารถทำความเร็วสูงสุด 75 กม./ชม. และวิ่งได้ไกลถึง 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จ โดยใช้เวลาในการชาร์จเพียง 2–4 ชั่วโมง พร้อมระบบขับขี่ 3 โหมดที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้ใช้ ดีไซน์และเทคโนโลยีทันสมัย - ไฟหน้า-ท้าย LED ทรงเหลี่ยม พร้อมไฟเลี้ยวบิลต์อิน- หน้าจอ LED แสดงผลครบ: ความเร็ว, แบตเตอรี่, โหมดขับขี่ และไมล์สะสม- ระบบล็อกอัจฉริยะพร้อมรีโมทและฟังก์ชันค้นหารถ ความปลอดภัยมาเต็ม- ระบบเบรก CBS พร้อมโช้กอัพคู่- กันสะเทือนหน้า Hydraulic และด้านหลัง Double Shock จาก YSS- ผ่านการรับรองมาตรฐาน UNR 136 และ มอก. สเปกหลัก- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 72V 24Ah- แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร- น้ำหนักรถ 78 กก. / รับน้ำหนักได้สูงสุด 170 กก.- ล้อขนาด 12 นิ้ว พร้อมยาง 90/90-12- ขนาดตัวรถ: 750 x 1,830 x 1,145 มม. การรับประกันมั่นใจได้มอเตอร์: 5 ปี หรือ 30,000 กม.แบตเตอรี่: 5 ปีคอนโทรลเลอร์: 3 ปี หรือ 20,000 กม.ระบบไฟฟ้าอื่น ๆ และที่ชาร์จ: รับประกัน 1 ปีโปรโมชันเปิดตัว – คุ้มสุดในตลาดสำหรับผู้ที่จอง 400 คันแรก จะได้รับราคาพิเศษเพียง 45,740 บาท พร้อมของแถม ซีลหน้าจาก EM Motor ฟรี สนใจสอบถามหรือสั่งจองได้ที่:[คลิ๊ก เว็บไซต์ EM Motor] หรือโชว์รูมที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
มาใหม่ Honda CT125 2023
Honda CT125 ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยความที่ตัวรถมีขนาดเล็ก คล่องตัว และมีประสิทธิภาพที่ตอบสนองต่อการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โมเดลนี้จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท ล่าสุด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Honda ในประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ของ CT125 ในปี 2023-2024 ที่มีการอัพเดทเครื่องยนต์จากรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงรูปแบบของเครื่องยนต์ขนาด 124.7 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีการปรับปรุงกลไกภายในเครื่องยนต์ใหม่ ทำให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นในรอบที่ต่ำลง ทำให้ตัวรถมีกำลังสูงสุด 6.76 แรงม้า (kw) ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 10.8 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที รูปลักษณ์ภายนอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยยังคงแนวคิด “Hunt Your Trail” นำวิถีชีวิตสมัยใหม่และการใช้งานมาผสมผสานเข้ากับตัวถังที่แข็งแกร่งพร้อมความรู้สึกระดับพรีเมียม และยังรักษาอุปกรณ์เดิมอย่างครบถ้วน แผงมาตรวัดเป็นแบบดิจิตอลขนาดกะทัดรัดพร้อมดีไซน์ทรงกลมที่ดูทันสมัยและหรูหรา แฮนด์บังคับเลี้ยวในรุ่นนี้ให้ตำแหน่งการขี่ที่เป็นธรรมชาติซึ่งควบคุมได้ง่าย และช่วยเสริมตำแหน่งการขี่ที่สร้างขึ้นมาอย่างดีซึ่งผู้ขี่มีทัศนวิสัยที่สมบูรณ์ Honda CT125 มีน้ำหนักสุทธิ 116 กิโลกรัม ติดตั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic และล้อขนาด17 นิ้วแบบซี่ลวด รองรับการควบคุมที่มั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยยางขนาด 80/90 เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ Honda CT125 ติดตั้งดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง พร้อมระบบ ABS แบบ Single Channel ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างมากขึ้น Honda CT125 เวอร์ชั่น 2023 จำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยราคา 81,400,000 รูเปียห์ หรือราวๆ 189,682 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาที่ทำตลาดในประเทศไทย โดย CT125 ที่ทำตลาดในประเทศไทยปัจจุบัน นั้นมีราคาจำหน่ายบนหน้าเว็บไซต์หลักอย่างเป็นทางการที่ 84,900 บาทเท่านั้น เราต้องมาดูกันว่า Honda thai จะเปิดราคาที่เท่าไหร่ บริษัท สหกิจ มอเตอร์ไบค์ จำกัดรถมอเตอร์ไซด์มือหนึ่งมือสอง มอไซด์ฮอนด้า จัดไฟแนนซ์รถมอเตอร์ไซด์ Line:@skm1991www.skm1991.comhttps://www.facebook.com/1991skm